admin
ส.อ.ท. รวมพลัง ONE FTI ลงพื้นที่ช่วยเหลือสมาชิกผู้ประสบอุทกภัย เชียงราย
วันเสาร์ที่ 21 กันยายน 2567 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) นำโดยนายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานและนายทะเบียน ส.อ.ท. ดร.สมสิทธิ์ มูลสถาน กรรมการบริหาร ส.อ.ท. และประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลและโลหะการ นายสมบูรณ์ พิทยรังสฤษฎ์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลและโลหะการ นางบัญชุสา พุทธพรมงคล ประธานคลัสเตอร์วัสดุก่อสร้าง นางสาวพรรรัตน์ เพชรภักดี ผู้อำนวยการใหญ่ ส.อ.ท. และนางสาวพัชรียา เจตสรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมและสนับสนุนสภาอุตสาหกรรมจังหวัด ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยมีนายอภิพันธ์ ภู่ภักดี ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย นายมงคลชัย ดวงแสงทอง ประธานกิตติมศักดิ์สภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยคณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย นำคณะพบปะและช่วยเหลือสมาชิก ส.อ.ท. ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย 5 แห่ง ได้แก่ 1) บริษัท เวียงทรายทอง จำกัด (อู่เอเชีย) ธุรกิจท่าทราย ดูดทราย ซ่อมสีตัวถังรถยนต์ ซึ่งได้รับผลกระทบเครื่องจักร รถยนต์และอุปกรณ์สำนักงานเสียหาย รถพ่วงจมน้ำ 2) ห้างหุ้นส่วนจำกัด แม่สายศิลา ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานถนน งานทาง ได้รับผลกระทบรถยนต์และรถบรรทุกจมน้ำ อุุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์สำนักงานเสียหาย 3) ห้างหุ้นส่วนจำกัด เมืองเทิงเซอร์วิส ธุรกิจต่อตัวถังรถบรรทุก ได้รับผลกระทบ เครื่องจักรแช่น้ำเสียหาย 4) บริษัท บ้านผลไม้ (ประเทศไทย) จำกัด ธุรกิจผลไม้อบแห้ง ได้รับผลกระทบเรื่องราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น และ 5) สำนักงานที่ตั้งสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย ได้รับผลกระทบอุปกรณ์สำนักงานเสียหาย
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เฝ้าติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงดินโคลนถล่มในหลายพื้นที่ ซึ่งได้ส่งผลอย่างรุนแรงต่อการดำรงชีวิต การดำเนินธุรกิจ รวมถึงทรัพย์สินต่างๆ ที่มีความเสียหายและได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างทั้งในส่วนของภาคอุตสาหกรรม ราชการ และประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด
ด้านนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธาน ส.อ.ท. ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน จึงได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดย ส.อ.ท. พร้อมให้การสนับสนุนและช่วยเหลือสมาชิกอย่างเต็มกำลัง พร้อมกันนี้ยังได้รับความร่วมมือร่วมใจจากพี่น้องสมาชิกทั่วทั้งภูมิภาคในการฟื้นฟูและเยียวยา เพื่อให้สมาชิกกลับมาฟื้นตัวและประกอบการได้เร็วที่สุด ทั้งนี้ ส.อ.ท. ได้ออกมาตรการเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะฟื้นฟู เยียวยาและป้องกัน โดยมีรายละเอียดดังนี้
ระยะฟื้นฟู
• ลงพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือและให้คำแนะนำด้านการฟื้นฟูโรงงานกับสมาชิก เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลและโลหะการ สนับสนุนทีมงานสำรวจโรงงาน เพื่อช่วยเหลือและให้คำแนะนำด้านเครื่องจักรที่ได้รับผลกระทบ และกลุ่มอุตสาหกรรมการจัดการเพื่อสิ่งแวดล้อม สนับสนุนทีมงานสำรวจการจัดการขยะให้ถูกต้องตามกฏหมายและหลักวิชาการ
• เผยแพร่ข้อมูล ความรู้ด้านการฟื้นฟู เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สนับสนุนทีมงานให้คำปรึกษาออนไลน์เพื่อการฟื้นฟูโรงงาน และกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สนับสนุนข้อมูลด้านแนวทางการทำความสะอาดและฟื้นฟูเครื่องใช้ไฟฟ้า
• จัดทำแพ็กเกจสินค้าและบริการสำหรับสมาชิกจากกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างเป็นระบบ โดยกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สนับสนุนการตรวจเช็คสภาพฟรี และมอบส่วนลดซ่อมบำรุงรถยนต์จากเหตุการณ์อุทกภัย ทั้งค่าแรง 10% และอะไหล่ 30% และกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น สนับสนุนส่วนลดสำหรับการซ่อมบำรุงเครื่องปรับอากาศ
• จัดทีมสำรวจแนวทางการจัดการขยะหลังน้ำลด ทั้งขยะอุตสาหกรรมและขยะที่จะนำกลับมารีไซเคิลได้
ระยะเยียวยา
• ผลักดันมาตรการสนับสนุนทางภาษีและการเงิน เช่น ยกเว้นภาษีนิติบุคคล ขยายเวลาการยื่นภาษี ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร และยกเว้นค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง
• ประสานสถาบันการเงิน เพื่อจัดหาสินเชื่อ เงินกู้ ดอกเบี้ยพิเศษเพื่อการฟื้นฟู
• ประสานบริษัทประกันภัยถึงช่องทางอำนวยความสะดวก บริการที่รวดเร็วและการแก้ปัญหาต่างๆ แก่ผู้ประสบภัย
ระยะป้องกัน
• ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และสื่อสารให้สมาชิกรับทราบเกี่ยวกับแนวทางการป้องกัน
ขณะเดียวกัน ส.อ.ท. เร่งเสนอแนะแนวทางต่อภาครัฐในการออกมาตรการเยียวยาภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ดังนี้
1. บูรณาการหน่วยงานรัฐทั้งกรมชลประทาน กรมโยธาธิการ กรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานทหารในพื้นที่ ในการบริหารจัดการน้ำและป้องกันปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ โดย
1.1 ส่งต่อข้อมูลสถานการณ์น้ำและผู้ประสบภัยอย่างเป็นระบบ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลดให้กลับสู่สภาพปกติ
1.2 พัฒนาระบบแจ้งเตือนระดับน้ำและพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมให้ประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่แบบเรียลไทม์ ผ่านระบบโทรศัพท์มือถือ
2. ออกมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft loan) เพื่อฟื้นฟูผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ ทั้งการซ่อมแซมเครื่องจักร ฟื้นฟูโรงงาน และเสริมสภาพคล่องทางการเงิน โดยยกเว้นอัตราดอกเบี้ย 2 ปีแรก และหลังจากนั้น คิดอัตราดอกเบี้ย MLR/MRR -2 และไม่นำไปเป็นประวัติเครดิตบูโร
3. ออกมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมประจำปี ค่าสาธารณูปโภค และมาตรการทางภาษี เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อาทิ ยกเว้นภาษีนิติบุคคล ยกเว้นภาษีบำรุงท้องถิ่น ยกเว้นภาษีป้าย ยกเว้นภาษีที่ดิน ยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการ (ร.ง.4) ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า เป็นต้น
4. ขยายระยะเวลาส่งมอบงานสำหรับผู้ประกอบการที่รับงานโครงการรัฐ รวมทั้งยกเว้นดอกเบี้ยและค่าปรับในกรณีส่งมอบงานล่าช้าที่มีสาเหตุจากปัญหาอุทกภัย
